เพลงนี้ฟังง่ายแต่คิดไม่ง่ายเลย - ตอนที่ดู screen test พั๊นช์จะร้องเพลง pop วัยรุ่นๆ ร้องไปเต้นไป พวกเรา(ทีมงาน C&D และอ๊อด กิติศักดิ์ ช่วงอรุณ - GMM) รู้สึกเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเข้ากัน ส่วนตัวรู้สึกหน้าตาพั๊นช์ดูออกเฉยๆ เศร้าๆ มากกว่ารื่นเริง วันนึงขอให้พั๊นช์ร้องเพลงที่ชอบและอยากร้อง จำได้ว่าพั๊นช์นั่งตรงกลางห้อง ตามองไปข้างหน้า แล้วเริ่มร้องเพลง
นึกเสียว่าสงสาร ของ
อ้อย กะท้อน แบบปากเปล่าไม่มีดนตรี เป็นอะไรที่จับใจมาก (ยังจำภาพนั้นติดตา) ก็คิดได้ว่าน่าจะทำในสิ่งที่พั๊นช์ทำได้ดีที่สุดดีกว่าทำตามกระแส(ตอนนั้นฮิต pop ใสๆ) แต่ก็ต้องให้ร่วมสมัยด้วย จากนั้นทีมงานส่งคนไปไหนมาไหนกับพั๊นช์เป็นอาทิตย์เพื่อเก็บเรื่องราวชีวิตประจำวันเผื่อจะได้เรื่องมาเขียนเพลง(บ้านพั๊นช์อยู่ในซอยที่รถเข้าไม่ได้ พั๊นช์อยู่กับแม่ ร้องเพลงตามงานวัดกับวงดนตรีญาติๆ ชอบซื้อของแถวตลาดวังหน้าแถวรพ.ศิริราช เป็นต้น) เพลงนี้ตู๋(ปิติ ลิ้มเจริญ) แต่งแบบธรรมชาติ คือเล่นกีต้าร์และแต่งสดๆ เพลงนี้เรียบเรียนดนตรียาก ที่ว่ายากคือคิดยาก เพราะต้องทำให้ฟังดูบ้านๆ แต่ก็ต้องมีอะไรด้วย ก็เลยกำหนดในใจไว้ 3 อย่าง คือ 1 ต้องมีเสียงดนตรีที่ฟังดูบ้านๆ (ใช้เสียง organ รุ่นเก่าๆ solo) 2 ต้องมีท่อนที่เป็นเอกลักษณ์(ซึ่งเพิ่งคิดได้ตอนหลังสุด คือท่อน bass เล่นกับกลองรัวๆ) 3 จังหวะไม่ควรสม่ำเสมอจะดูธรรมดาไป(ในเพลงจึงมีท่อนกลองที่ต่างกันไป 2-3 แบบ) ตอนอัดเสียงก็อัด กีต้าร์ กลอง และ bass เล่นกันสดๆ เพลงนี้ได้มือกีต้าร์(โฟร์) และมือ bass(บัง) วง 25 hour มาเล่นให้(ตอนนั้นวงนี้ยังไม่ดัง)
No comments:
Post a Comment